แถลงข่าวจับกุม ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติ
 มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ชินภัทร  สารสิน  รอง ผบ.ตร.
ตำรวจภูธรภาค 4  ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ยรรยง  เวชโอสถ    ผบช.ภ.4
พล.ต.ต.ธนชาติ  รอดคลองตัน   รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์  ประชุม   ผบก.สส.ภ.4 ,      
พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ  รอง ผบก.สส.ภ.4     พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์  ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4
ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ  ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ต.ตรีวิทย์  ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ , พ.ต.อ.พงศ์พัชร์  แจ้งหมื่นไว รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ
พ.ต.อ.จรูญศักดิ์  ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ,   พ.ต.อ.สมชาย  นิลเพ็ชร  ผกก.สภ.เหล่าหลวง

พร้อมเจ้าพนักงานตำรวจ
กก.สส.1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกับ สภ.เหล่าหลวง ภ.จว.บึงกาฬ และ กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ
ร่วมกันจับกุม / ดำเนินคดี ผู้ต้องหา คือ
นายอนุวัฒน์  โสภาศรี  อายุ 31 ปี ที่อยู่ 177 หมู่ 15 ต.หนองกรุงธนสาร อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า  จำนวน 7.5 กระสอบ  (จำนวน 3,000,000 เม็ด)
2.รถยนต์กระบะแค๊ป สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฒฉ-6209 กทม.
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง (ตรวจยึดจากภายในรถยนต์ของกลาง)
4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง (ตรวจยึดจากภายในรถยนต์ของกลาง)
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)อันก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน ”
สถานที่ตรวจยึด/จับกุม  บริเวณริมถนนหมายเลข 2026 เขตหมู่บ้านโพธิ์หมากแข้ง หมู่ 1                 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ  เมื่อวันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์  2566  เวลาประมาณ 02.00 น.

พฤติการณ์ในการตรวจยึด
จากกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีการปราบปรามและจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งมีการลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากมาตามจังหวัดแนวชายแดนแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย, จ.หนองคาย,            จ.บึงกาฬ และนครพนม
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 จึงได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4  ประสานข้อมูลกลุ่มผู้กระทำความผิดกับแต่ละพื้นที่จังหวัด และนำข้อมูลมาวิเคราะห์กลุ่มเครือข่ายจนสามารถทราบถึงกลุ่มนักบินที่ลักลอบขนยาเสพติด และได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งพบว่าเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
2566 กลุ่มนักบินได้มีการเคลื่อนไหวจาก จ.ขอนแก่น ไปยัง จ.บึงกาฬ  พล.ต.ต.ณัฐนนท์  ประชุม              ผบก.สส.ภ.4 จึงได้ประสานงานกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์  ศรีประภา ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ เพื่อประสานการปฏิบัติ โดยมอบหมายให้สนธิกำลังวางแผนในพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ        
จนกระทั่งในคืนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 1:30 น. ขณะที่ได้มีการวางกำลังตามเส้นทางในพื้นที่ ต.เหล่าหลวง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติด ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยตรงตามตำหนิรูปพรรณที่ได้วิเคราะห์จึงเฝ้าติดตาม  โดยพบกระบะยี่ห้อ TOYOTA รุ่น REVO          สีขาว แต่งโหลดเตี้ย ซึ่งเป็นรถที่ใช้ขนยาเสพติด ได้มีการขับด้วยความเร็วโดยมีสิ่งของบรรทุกอยู่กระบะด้านหลังคลุมด้วยผ้าใบสีฟ้า ผ่านในเขต อ.บึงโขงหลง ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังคอยสังเกตการณ์ จึงได้มีการวิทยุแจ้งเพื่อตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวแต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่จอดและไม่ยินยอมให้ทำการตรวจสอบและได้ขับฝ่าด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณบ้านโพธิ์หมากแข้ง ต.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้ยุทธวิธีในการสกัดกั้นจนรถคันดังกล่าวขับไปต่อไม่ไหว และนักบินจำนวน 2 คน ได้จอดรถทิ้งไว้แล้ววิ่งหลบหนีไปตามภูมิประเทศในความมืด จากการตรวจสอบกระบะด้านหลังพบว่าเป็นยาบ้าจำนวนมาก ได้นำมาตรวจนับพบเป็นยาบ้าจำนวน 7.5 กระสอบ หรือประมาณ 3 ล้านเม็ด ซึ่งต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจยึดได้สืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานอนุมัติขอหมายจับต่อศาล
และเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ชุดตรวจยึด/จับกุม ได้สืบสวนทราบว่านายอนุวัฒน์ฯ ซึ่งเป็นผู้รับงาน/สั่งการกลุ่มนักบิน ได้หนีไปกบดานในพื้นที่ อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู จึงได้ติดตามไปจับกุม         ขณะนี้ทราบถึงเครือข่ายกลุ่มนักบินแล้วอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้ายเพิ่มเติมเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจยึด/จับกุม จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีกับบุคคลที่ยังหลบหนีการจับกุม รวมถึงสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องและกลุ่มนายทุนที่มีการสั่งการในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
ตำรวจภูธรภาค 4 ฝากเตือนถึงกลุ่มผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดรวมถึงนายทุนผู้สั่งการในการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ  ตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีการปราบปราม สืบสวนสอบสวน จับกุม และขยายผลถึงขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด และมีการดำเนินคดีตามกฎหมายยาเสพติด กฎหมายฟอกเงิน และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น อย่างตรงไปตรงมา หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องถูกดำเนินคดี ถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายจนถึงที่สุด